GO GREEN ..with.. NEST
nest ในโลกปัจจุบันที่นวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยรังสรรค์ให้สิ่งที่มนุษย์ แต่ก่อนได้เพียงแต่วาดฝันกลายความจริงขึ้นมา ผู้คนมีชีวิตที่สะดวกสบายง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยการทำงานผ่านซอฟต์แวร์อัจฉริยะ เชื่อมโยงผู้คนและข้อมูลข่าวสารเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Smart Phone, Smart T.V., Smart Watch หรือแม้กระทั่ง Smart Home บ้านอัจฉริยะที่อุปกรณ์ต่างๆ สามารถควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นบน Smart Phone ได้อย่างง่ายดาย
10 ข้อดี จากแนวคิดของการมีบ้าน Smart Home
- ช่วยควบคุมระบบข้อมูล, การสื่อ และระบบไฟภายในบ้าน
- อำนวยความสะดวกและความบันเทิงในห้องครัว
- ช่วยควบคุมและลดการใช้พลังงานในห้องครัว
- สะดวกในการควบคุมจากระยะไกล
- ควบคุมระบบน้ำและไฟฟ้าในห้องน้ำ
- ช่วยประหยัดการใช้น้ำ ด้วยการเปิดปิด อัตโนมัติ
- สะดวกด้วยระบบปรับอากาศอัจฉริยะ
- ลดการใช้พลังงาน ด้วยสถาปัตยกรรมที่ประณีต
- การออกแบบที่สอดแทรกความสะดวกในการ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร
- แต่ละส่วนของบ้าน สามารถควบคุมการทำงานได้อัตโนมัติ
nest อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะภายในบ้าน หนึ่งในเทคโนโลยีของบ้าน Smart Home ที่ช่วยให้ชาวอเมริกันสะดวกสบายและยังช่วยลดการใช้พลังงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เคยหมดไปกับ Heater และ Air Conditioner ที่ถูกใช้ไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ nest ถูกจัดอันดับให้เป็น The World Most Innovative Companies 2013 ในลาดับที่ 331 และ The World's Most Valuable Private Tech Companies 2012 ในลาดับที่ 6822
nest ..คืออะไร ?
กล่าวได้ว่า มันคืออุปกรณ์ที่ทาให้อากาศในบ้าน เป็นเหมือนทุกวันที่สดใส ในคอนเซปต์ Smart Home โดยถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น โดยทาหน้าที่ควบคุมระบบทาความร้อนและทาความเย็นของบ้าน ซึ่งสามารถ กาหนดค่าและเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน ในแต่ละช่วงของวัน รวมถึงฤดูกาลต่างๆ และนาไปบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
nest . .พิเศษอย่างไร ?
- ช่วยลดการใช้พลังงาน 20%
- สามารถติดตั้งได้ง่าย
- ระบบเรียนรู้พฤติกรรม และทางานอัตโนมัติ
- ใช้งานงสะดวก เพียงแค่หมุนอุปกรณ์ ซึ่งออกแบบเป็นทรงกลม
- ระบบเตือนความจา filter reminder
- ระบบควบคุมระยะไกล ผ่าน Mobile Applications
- สามารถดูรายงาน Track Saving ผ่านเว็บไซต์
- มีแผนพัฒนาให้สามารถ ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยในอนาคต
เนื่องจาก nest ได้ก้าวเข้าไปเป็นอุปกรณ์ดิจิตอลอีกหนึ่งชิ้นที่ผู้คนจะต้องใช้มันเป็นประจำทุกวัน และมันคงจะดีถ้ามีการนำเทคโนโลยี เข้ามามีส่วนช่วยให้ชีวิตประจำวันของเรานั้นง่ายขึ้น ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสสตีล มีหน้าจอแสดงผลอยู่ทางด้านหน้า และอาศัยการควบคุมโดยดารหมุนตัวเครื่องที่เป็นสเตนเลสสตีลในการเลือกฟังก์ชั่นต่างและกดลงที่ตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนที่เป็นจอ นั่นหมายถึงการกดปุ่ม OK นั่นเอง นอกจากนั้น มันยังสามารเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายด้วย Wi-Fi network และสามารถควบคุมระบบได้ที่ตัวอุปกรณ์หรือผ่านแอพพลิเคชั่นบน iPhone หรือจาก Website ผ่าน Nest.com ซึ่งเป็นการควบคุมจากระยะไกลได้อีกด้วย ภายในซอฟต์แวร์ถูกโปรแกรมระบบเรียนรู้อัจฉริยะซึ่งเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเราและทำงานอัตโนมัติ และยังประกอบไปด้วยเซนเซอร์อีก 6 จุด ที่ช่วยจับตาดูว่ามีคนอยู่ในบ้านหรือไม่ เพื่อทำงานตัดระบบทำความร้อนหรือเย็นอัตโนมัติ
บริษัท มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ มีรายได้จากการขายเครื่องเทอร์โมเสตทอัจริยะที่มีชื่อว่า nest ซึ่งสนนราคาของมันอยุ่ที่ 249 ดอลล่าร์ (ไม่รวมค่าติดตั้ง) ถ้าจำเป็นต้องใช้พนักงานติดตั้งก็จะเสียค่าบริการเพิ่มราวๆ 119 ดอลล่าร์ กล่าวได้ว่า เป็นผู้นำในตลาด โดยมีตัวเลขยอดผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มากถึง 95 % ในสหรัฐ(2012)3 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งอยู่ที่ 75% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถึงแม้ว่าจะดูว่าเหมือนกำลังอิ่มตัวแล้วในสหรัฐอเมริกา แต่ทางบริษัทก็มีแผนงานที่จะติดต่อร้านค้าปลีกเพื่อจะรวางขายในยุโรปต่อไป
ด้านล่างเป็นตาราง Chart different brand prices by amazon 20134
ในส่วนต่อไปนี้ จะเป็นการวิเคราะห์โครงสร้างทางธุรกิจซึ่งประกอบด้วย การวิเคราะห์ Business Model และ SWOT Analysis โดยอธิบายไล่เรียงเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้
Business Model กล่าวคือ การลงรายละเอียดในแต่ละส่วนเกี่ยวข้องกับ 4 คำถามที่สำคัญ คือ ทำอะไร? ทำอย่างไร? ขายให้ใคร ทำแล้วคุ้มหรือไม่? ซึ่งแยกย่อยอกอีกเป็น 9 หัวข้อลงไป ได้แก่
1. Customer Segment
- ผู้ที่มีที่อยู่อาศัยทุกระดับ
2. Value Proposition
- คุณสมบัติในการจดจำและเรียนรู้
- การใช้งานที่ง่าย
- การสั่งงานผ่าน Mobile Applications
3. Channels
- Nest online store
- traditional web shopping
4. Customer Relationship
- Nest community
- Nest support on webpage
5. Revenue Stream
- ขายสินค้า
6. Key Resources
- H.R. : ex-apple employee
- สถาบันการเงิน
7. Key Activities
- การผลิตฮาร์ดแวร์
- พัฒนาซอฟแวร์
8. Key Partners
- Google Venture
- Lightspeed Venture
9. Cost Structure
- ค่าแรงพนักงาน
- วัตถุดิบ (ชิ้นส่วนของ Apple’s 4X)
- วิจัยและพัฒนา
SWOT Analysis การมองตนเองและมองผู้อื่น ซึ่งจะทำให้เราเห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองและมองจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง รวมถึงโอกาสในอุตสาหกรรม ซึ่งวิเคราะห์ SWOT Analysis ของบริษัท nest โดยจะแยกออกเป็น การวิเคราะห์ภายในองค์กร และการวิเคราะห์ภายนอกองค์กร
ส่วนที่หนึ่ง ภายในองค์กร
1. Strengths (จุดแข็ง)
- ฟังก์ชั่น และ ซอฟต์แวร์
- การออกแบบและวัสดุ
- มี partnership ที่ดี
2. Weakness (จุดอ่อน)
- มีต้นทุนทางวัตถุดิบที่สูง
ส่วนที่สอง ภายนอกองค์กร
3. Opportunities (โอกาส)
- พัฒนาซอฟแวร์ เพื่อรองรับการทำงานด้านอื่นๆ
- ยังมี market share ในต่างประเทศอีกจำนวนมาก
4. Threats (อุปสรรค)
- ต่อไปจะต้องพึ่งการส่งออก หรือย้ายฐานผลิต