การจัดทำฐานข้อมูลบริหารจัดการโรงพยาบาล
1) บทนำ
สังคมสารสนเทศในปัจจุบัน ข้อมูลถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าของทุกๆ หน่วยงานไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ หน่วยงานที่สามารถจัดการข้อมูลได้ดีกว่าย่อมได้เปรียบกว่าในทุกๆ ด้าน ดังนั้นหลายหน่วยงานจึงได้มีความพยายามนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูล โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลของหน่วยงานมีความถูกต้อง แม่นยำ ทันสมัยและสะดวกต่อการเรียกใช้งานมากที่สุด หากจะพิจารณาถึงการจัดการข้อมูลย่อมจะหมายถึง การจัดเก็บข้อมูล การเรียกใช้ข้อมูล รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาใช้งาน
จากการศึกษาโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็กในต่างจังหวัด ก็ยังต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลคนไข้ที่มารับการรักษา โดยข้อมูลที่ทำการจัดเก็บ ได้แก่ ประวัติส่วนตัวของคนไข้ อาการที่มารับการรักษา วิธีการรักษา และผลการรักษา ซึ่งวิธีที่ใช้ในการจัดเก็บ ก็คือการจดบันทึกข้อมูลทั้งหมดลงบนกระดาษ (Hard Copy) ทำให้เกิดปัญหาข้อมูลซ้ำซ้อน ไม่มีประสิทธิภาพ และถ้าจำนวนคนไข้มีเยอะมากขึ้นทำให้ยากต่อการค้นหาและข้อมูลเกิดการสูญหาย รวมถึงคลังยาไม่มีการเก็บข้อมูลจำนวนปริมาณการใช้ยาอย่างมีระบบ ทำให้เกิดปัญหาในคลังยา ทั้งยาขาดสต๊อกและยาที่หมดอายุ และในการจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ ทางโรงพยาบาลใช้ตู้เก็บเอกสารขนาดใหญ่สำหรับเก็บแบบฟอร์มและเรียงไว้ในลิ้นชัก เมื่อมีคนไข้ใหม่เพิ่มขึ้นก็เพิ่มแบบฟอร์มแผ่นใหม่เข้าไป และในการเรียกใช้ข้อมูลเมื่อมีคนไข้มาติดต่อ เจ้าหน้าที่ต้องค้นหาข้อมูลเดิมของคนไข้ วิธีหนึ่งที่ทำได้คือตรวจดูข้อมูลบนบัตรคนไข้ทีละใบตั้งแต่ใบแรกจนพบ การค้นหาวิธีนี้อาจเสียเวลามาก ด้วยเหตุนี้ทางโรงพยาบาลจึงได้มีการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้งานเพื่อประมวลผลข้อมูล นอกจากอำนวยความสะดวกในการทำงานได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีความถูกต้องแม่นยำในการประมวลผลด้วย ซึ่งในการจัดทำระบบฐานข้อมูลจะเข้ามาช่วยเก็บและจัดการข้อมูลประวัติของคนไข้ ข้อมูลการมารับการรักษา ข้อมูลการใช้ยาต่างๆ ช่วยให้แพทย์และเภสัชกรใช้ฐานข้อมูลในการค้นหาข้อมูลและย้อนดูประวัติการรักษา รวมถึงแผนกคลังยาก็สามารถใช้ฐานข้อมูลดูปริมาณการใช้ยาย้อนหลังเพื่อใช้ในการสั่งซื้อยาและสต๊อกยาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2) การออกแบบ E-R Diagram
2.1 E-R Diagram ของฐานข้อมูลบริหารจัดการโรงพยาบาล ประกอบด้วย Entity ต่างๆดังนี้
1. Doctor: แสดงรายละเอียดหมอในโรงพยาบาล
2. Drug: แสดงรายละเอียดยาที่มีในโรงพยาบาล
3. Patient: แสดงรายละเอียดคนไข้ภายในโรงพยาบาล
4. Pharmacist: แสดงรายชื่อเภสัชภายในโรงพยาบาล
5. Purchase_Order: แสดงใบสั่งซื้อยา
2.2 ความสัมพันธ์ของข้อมูลในรูปแบบ Many-to-Many ประกอบด้วย
1. Medical_Records: แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Patient กับ Doctor
2. Prescription: แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Patient กับ Drug
3. Purchase: แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Drug กับ Purchase_Order
2.3 เงื่อนไขความสัมพันธ์ของ Entity
1. คนไข้ 1 คนสามารถเข้ารับการรักษาจากหมอได้หลายคน ส่วนหมอ 1 คน สามารถทำการรักษาคนไข้ได้หลายคน
2. คนไข้ 1 คนสามารถรับได้หลายชนิด ส่วนยาแต่ 1 ชนิด สามารถจ่ายให้คนไข้ได้หลายคน
3. ยา 1 ชนิด สามารถสั่งซื้อได้หลายครั้ง ส่วนการสั่งซื้อ 1 ครั้ง สามารถซื้อยาได้หลายชนิด
4. คนไข้ 1 คน สามารถรับการจ่ายยาจากเภสัชได้หลายคน ส่วนเภสัช 1 คน สามารถจ่ายยาให้คนไข้ได้หลายคน
3) รายละเอียดของแต่ละ Entity
3.1 Doctor
แสดงรายละเอียดข้อมูลของแพทย์ภายในโรงพยาบาล โดยตารางจะประกอบด้วย รหัสประจำตัวแพทย์ ชื่อแพทย์ และความเชี่ยวชาญ โดยมี Doc_ID เป็น Primary Key
รายละเอียดข้อมูล
3.2 Drug
แสดงรายละเอียดข้อมูลของยาภายในโรงพยาบาล โดยตารางจะประกอบด้วย รหัสยา ชื่อยา ประเภทของยา และจำนวนยาที่เหลือภายในคลัง โดยมี Drug_ID เป็น Primary Key
รายละเอียดข้อมูล
3.3 Medical_Records
แสดงรายละเอียดการรักษาที่เกิดขึ้น โดยตารางจะประกอบด้วย รหัสประจำตัวแพทย์ รหัสประจำตัวคนไข้ วันที่เข้ารับการรักษา รายละเอียดการรักษา และค่ารักษาพยาบาลโดยมี Doc_ID, HN และ Date เป็น Primary Key
รายละเอียดข้อมูล
3.4 Patient
แสดงรายละเอียดข้อมูลคนไข้ โดยตารางจะประกอบด้วย รหัสประจำตัวคนไข้ ชื่อคนไข้ เพศ อายุ วันเกิด ชื่อยาที่แพ้ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ โดยมี HN เป็น Primary Key
รายละเอียดข้อมูล
3.5 Pharmacist
แสดงรายละเอียดข้อมูลเภสัชกรของโรงพยาบาล โดยตารางจะประกอบด้วย รหัสประจำตัวเภสัชกร และชื่อเภสัชกร โดยมี Pha_ID เป็น Primary Key
รายละเอียดข้อมูล
3.6 Prescription
แสดงรายละเอียดข้อมูลการจ่ายยา โดยตารางจะประกอบด้วย รหัสประจำตัวคนไข้ รหัสยา จำนวนยาที่จ่าย วันที่จ่ายยา รหัสเภสัชกรที่จ่ายยา และปริมาณการใช้ยา โดยมี HN, Drug_ID และ Date เป็น Primary Key
รายละเอียดข้อมูล
3.7 Purchase
แสดงรายละเอียดการสั่งซื้อยา โดยตารางจะประกอบด้วย รหัสยา หมายเลข PO จำนวนยาที่สั่งซื้อ และหน่วยยาที่สั่งซื้อ โดยมี Drug_ID และ PO เป็น Primary_Key
รายละเอียดข้อมูล
3.8 Purchase_Order
แสดงข้อมูลใบสั่งซื้อยา โดยตารางประกอบด้วย หมายเลข PO และวันที่สั่งซื้อยา โดยมี PO เป็น Primary Key
รายละเอียดข้อมูล
4) การ Query ข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์ จาก ER diagram เราจะทำ query ทั้งหมด 5 query ได้แก่
4.1 ประวัติการรักษาคนไข้ (Patient_Medical_Record) โดยจะแสดงข้อมูลรหัสประจำตัวคนไข้ ชื่อคนไข้ วันที่เข้ารับการรักษา รายละเอียดอาการ ชื่อยา จำนวนยาที่จ่าย และชื่อหมอที่ทำการรักษาของการรักษาแต่ละครั้ง โดยจะเรียงข้อมูลจากรหัสประจำตัวคนไข้ เพื่อที่จะเป็นประวัติการรักษาของคนไข้ทั้งหมด
โดยหากหมอต้องการประวัติการรักษาของคนไข้คนใด ก็สามารถคัดกรองข้อมูลเฉพาะคนไข้นั้นจากการใส่ชื่อคนไข้ที่ต้องการลงในส่วนของ Name.Patient ทำให้หมอสามารถเช็คประวัติการรักษาของคนไข้ได้
4.2 ยอดใช้ยาและจำนวนคงเหลือของยาแต่ละตัว (Drug_Use_Amount) โดยจะแสดงข้อมูลรหัสยา ชื่อยา จำนวนยาที่ใช้ทั้งหมด และจำนวนยาที่เหลืออยู่ภายในคลัง
เนื่องจากในส่วนของการจ่ายยาและการสั่งซื้อยานั้นจะแยกคนละแผนกกัน ดังนั้นเพื่อที่จะให้ฝ่ายจัดซื้อรู้สถานการณ์จำนวนยาในปัจจุบัน จึงต้องการข้อมูลการใช้ยาย้อนหลังและจำนวนยาที่คงเหลืออยู่ในระบบ ณ ขณะนั้น เพื่อทำการวางแผนในการสั่งซื้อยาแต่ละชนิด
4.3 ประวัติการสั่งซื้อยาแต่ละตัว (Purchase_History) โดยจะแสดงรายละเอียดของการสั่งซื้อยาแต่ละครั้ง โดยจะแสดงข้อมูล หมายเลข PO วันที่ซื้อ ชนิดยาซื้อ จำนวนที่ซื้อ และหน่วยของยาที่ซื้อ
ข้อมูลการสั่งซื้อยาจะเป็นตัวช่วยอ้างอิงเบื้องต้นในการจัดซื้อยาในครั้งถัดไป รวมถึงดูความถี่ในการสั่งซื้อยาแต่ละชนิดว่ามีความถี่ในการสั่งซื้อเท่าใด เพื่อนำมาวิเคราะห์หาจุดที่เหมะสมระหว่างต้นทุนการซื้อที่ถูกและต้นทุนการจัดเก็บยา
4.4 รายได้ของโรงพยาบาลแยกตามความเชี่ยวชาญของหมอ (Doctor_per_Patient) โดยจะแสดงจำนวนคนไข้ที่หมอแต่ละคนได้ทำการรักษาในแต่ละวัน
การแสดงข้อมูลจำนวนคนไข้ที่หมอแต่ละคนทำการรักษาในแต่ละวันนั้นสามารถนำมาวิเคราะห์ในด้านของสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างหมอกับคนไข้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาคนไข้ หากหมอมีจำนวนคนไข้ที่ต้องรักษาต่อวันมากเกินไป ก็ส่งผลกับประสิทธิภาพในการรักษา จึงสามารถนำข้อมูลนี้มาใช้ในการบริหารจัดการจำนวนหมอภายในโรงพยาบาลได้
4.5 การจ่ายยาของเภสัช (Pharmacist_Prescription) โดยจะแสดงรายละเอียดการจ่ายยาให้กับคนไข้ของเภสัช โดยจะแสดงข้อมูลรหัสคนไข้ ชื่อคนไข้ รหัสยา ชื่อยา และชื่อเภสัชผู้ทำการจ่ายยา
เพื่อตรวจสอบการแพ้ยาของคนไข้ รวมถึงกรณีที่มีความผิดพลาดจากการจ่ายยาของเภสัช สามารถค้นหาข้อมูลเพื่อรู้ว่าเภสัชคนไหนเป็นผู้จ่ายยา